ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2554

ลักษณะต่างๆของช้าง


งาช้าง ถือเป็นฟันหน้าหรือเขี้ยวของช้าง งอกจากขากรรไกรบนข้างละอัน
โดยมีสีขาวนวล จะเริ่มโผล่ออกมาให้เห็นเมื่อช้างพลายมีอายุราว ๒-๕ ปี
ส่วนช้างพลายที่มีงาไม่สมบูรณ์เราเรียกว่า "ขนาย" ซึ่งจะสั้นกว่างาปกติ
และช้างพลายที่ไม่มีงาเรียกว่า "สีดอ" แต่จะมีรูปร่างใหญ่และแข็งแรงกว่า
ช้างปกติ ส่วนช้างอาฟริกาจะมีงาทั้งตัวผู้และตัวเมืย

งาช้างที่สวยงามจะต้องมีความโค้งเรียบสม่ำเสมอเกือบครึ่งวงกลม และช้าง
จะใช้งานเป็นอาวุธสำหรับต่อสู้และป้องกันตัว นอกจากนี้ถือเป็นสิ่งสวยงาม
และมีราคามากที่สุดในตัวช้าง

หูช้าง มีลักษณะคล้ายกับใบพัด และโบกไปมาอยู่เสมอ เมื่อกางหูออกเต็มที่
จะได้ยินเสียงจากที่ไกลๆ ได้ดีขึ้น ช้างสามารถสื่อสารระยะไกลได้ด้วยการ
ส่งเสียงอินฟราซาวด์ ซึ่งเป็นคลื่นเสียงความถี่ต่ำ และช้างที่อายุมาก ใบหูจะ
ม้วนลงมาและขอบล่างมักเว้าแหว่ง ซึ่งเราสามารถคาดคะเนอายุของช้าง
จากการเว้านี้ได้ กล่าวคือถ้าใบหูเว้าน้อยแสดงว่าอายุยังน้อย ในทางกลับกัน
ถ้าเว้ามากอายุก็มากขึ้น

ตาของช้างจะมีขนาดเล็กมาก เมื่อเทียบกับขนาดของร่างกาย ซึ่งจะเป็นตา
ขยาย มองเห็นได้ไกลและภาพที่เห็นจะมีขนาดใหญ่ อันเป็นเหตุให้ช้างตกใจ
ง่ายเมื่อมองเห็นสิ่งแปลกประหลาด

งวง คือจมูกของช้างมีความยาวถึงพื้น ปลายงวงมีรู ๒ รู กลวงตลอดความยาวของงวง และไม่มีกระดูกอยู่ภายใน จึงมีความอ่อนไหวและแกว่งไปมาได้นอกจากจะใช้หายใจแล้ว ยังใช้ประโยชน์ในการหยิบอาหารเข้าปาก อมน้ำพ่นน้ำเล่นได้ ที่งวงช้างมีกล้ามเนื้อถึง ๔๐,๐๐๐ มัด สามารถหยิบจับได้แม้
กระทั่งดอกไม้เล็กๆ

นิ้วเท้าของช้างมีขนาดสั้นจนเห็นแต่อุ้งเท้า ที่ใต้อุ้งเท้ามีหมอนรองอยู่คล้าย
กับยางรองเท้าผ้าใบ ทำให้ช้างเดินได้เบาและสง่างามมาก ส่วนเล็บเท้านั้น
โดยทั่วไปมี ๑๘ เล็บ คือ เท้าหน้าข้างละ ๕ เล็บ เท้าหลังข้างละ ๔ เล็บ แต่
บางเชือกหรือบางตัว ก็มี ๑๖ หรือ ๒๐ เล็บ

หางช้างมีลักษณะกลมยาวเรียวไปถึงเข่า ที่ปลายมีเส้นโตสีดำ ยาวประมาณ
๔-๖ นิ้วเรียงเป็น ๒ แถว ตลอดความยาวของหางประมาณ6-9 นิ้ว



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น